« iPod และ อังลี «

. . .
23 ตุลาคม
วันนี้ในปี ค.ศ. 2001 นับเป็นวันที่ประวัติศาสตร์การฟังเพลงของมนุษยชาติถูกเปลี่ยนแปลง ด้วยเครื่องเล่นเอ็มพีสามที่มีชื่อว่า iPod จากการค้นคิดพัฒนาโดยบริษัทแอปเปิลคอมพิวเตอร์ นำโดยกัปตันทีมที่ชื่อ สตีฟ จ็อบส์ และผู้ออกแบบคู่ใจโจนาธาน อีฟ
คุณสมบัติของเครื่องเล่นเอ็มพีสามชนิดนี้ ที่สตีฟ จ็อบส์ แนะนำให้ทุกคนรู้จักในวันนี้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว
คือ เครื่องฟังเพลงขนาดพกพาที่สามารถจุเพลงได้เป็นพันเพลงในเครื่องเดียว สิ่งที่ออกจากปากของสตีฟ จ็อบส์ในวันนั้น ก็คือ การชักธงท้ารบกับโซนี่วอล์คแมนแบรนด์ที่ยึดครองตลาดการฟังเพลงแบบพกพกมาตั้งแต่ปี 1981 หรือ 20 ปีมาแล้ว
แต่เหมือนกับสตีฟ จ็อปส์จะได้แต้มต่อโซนี่ตรงที่
ช่วงเวลาที่เขาทำคลอดไอพ็อดให้ลืมตาดูโลกนั้นเป็นช่วงเวลาที่คนทั่วโลกเริ่มตื่นตัวกับกระแสการดาวน์โหลดไฟล์เพลงเอ็มพีสามผ่านอินเตอร์เน็ตพอดิบพอดี
iPod ใช้เวลาแนะนำตัวอยู่ไม่กี่เดือน มันก็กลายเป็นนวัตกรรมที่ได้รับการพูดถึงอย่างกว้างขว้าง ว่าเจ้าสิ่งนี้จะทำให้โลกเข้าสู่ยุคที่ซีดีไม่ได้มีความสำคัญ ไม่ได้เป็นสื่อหลักในการฟังเพลง
ด้วยสร้างแรงสั่นสะเทือนหลายริกเตอร์ ด้วยความจุ
จุถึง 10 กิกะไบต์เสมือนเป็นฮาร์ดดิสก์เคลื่อนสามารถจุเพลงได้มากกว่า 3,000 เพลง
iPod ออกวางจำหน่ายชนิดไม่เกรงใจหน้าตาคู่แข่ง
ด้วยรูปลักษณ์ที่มีรสนิยมตามสไตล์
ไม่กี่เดือนต่อมา สตีฟ จ็อบส์ ตอกย้ำผู้คนที่ดูแคลนเขาอีกครั้งว่า ใครกัน จะพกพาเพลงเป็นพันๆ เพลงบนถนน
เขาจึงแก้เกมส์ด้วยการทำให้สินค้าชนิดนี้แมสที่สุดเท่าที่เทคโนโลยีจะทำได้ นั่นก็คือ ทำให้มันสามารถรันบนระบบปฏิบัติการณ์วินโดร์วคอมพิวเตอร์พีซีได้
ตามติดมาด้วยการเปิดตัวโปรแกรม iTunes โปรแกรมเพื่อการดาวน์โหลดซื้อหาไฟล์เพลงทางอินเตอร์เน็ตแบบถูกกฎหมาย
ที่ราคาเพลงละ 99 เซ็นต์
ในเวลาเพียงแค่ 2 ไตรมาสแรกของปี 2002 ที่ iPod วางจำหน่ายในอเมริกามันก็ดึงให้สถานการณ์ทางการเงินของแอปเปิลพลิกฟื้นคืนสภาพ เสริมให้อาณาจักรแอปเปิลแข็งแกร่งขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
รายงานล่่าสุดต้นเดืิอนตุลาคม 2006 บอกกับชาวโลกว่าขณะนี้
iPod ทำยอดได้ทะลุ 60 ล้านคนเรียบร้อยแล้วโรงเรียนแอปเปิ้ลแล้ว
. . .

มากันที่วันนี้ในปี ค.ศ. 1954 วันนี้ คือ วันเกิดของผู้กำกับชาวไต้หวั่นคนแรกที่ได้รับรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมจากเวทีประกาศผลรางวัลอะเคเดมี่อวอร์ด หรือ ออสการ์ปี 2006 จากภาพยนตร์เรื่อง Brokeback Mountain เขาคนนั้นก็คือ อังลี หรือชื่อภาษาจีนว่า หลี่อัน
อังลี ชายผู้มีความฝันในวัยเด็กว่าอยากเป็นจิตรกรและเภสัชกร เพื่อใช้สองสิ่งนี้เยียวยาผู้คนทั้งด้านร่างกายและจิตใจ
แต่เมื่อโตขึ้นหลีอัน ก็ยังไม่ทิ้งความฝันเดิม แต่เขาเลือกที่จะเป็นผู้กำกับภาพยนตร์แทน เส้นทางไดเร็คเตอร์ของเขาเริ่มจากมหาวิทยาลัยในไต้หวั่น จากนั้นอังลีก็ลัดฟ้าไปเรียนต่อด้านภาพยนตร์ที่นิวยอร์กยูนิเวอร์ซิตี้ ตอนเรียนอังลี มีเพื่อนร่วมรุ่นชื่อ สไป ลี
สอง “ลี” ที่สิบปีให้หลังได้กลายเป็นผู้กำกับที่ทรงอิทธิพลอของโลก ลี แรก สไป ลี มุ่งเข็มไปทำหนังอาร์ท มิวสิควิดีโอ ตลอดจนหนังโฆษณาที่ได้รับบึ๊กเนมในเวลาไม่นาน
ส่วน ลี สอง อังลี เริ่มต้นกำกับหนังเล็กๆ ไปๆ มาๆ อยู่ 2 ประเทศระหว่างไต้หวั่นกับอเมริกา
สำหรับที่ไต้หวั่นแล้ว ภาพยนตร์ที่สร้างชื่อให้เขาก็คือ
Eat Drink Man Woman หนังว่าด้วยอาหารและผู้หญิง คนที่เคยดูหนังเรื่องนี้บอกว่่าได้คำเดียวว่าไม่มีวันลืม ด้วยเหตุผลอะไรก็ต้องไปถามเขาเอง ส่วนที่ฮอลลีวู้ดภาพยนตร์ที่สร้างชื่อเสียงขวักมือให้สืื่อเมืองลุงแซมจับตาผู้กำกับหน้าใหม่จากไต้หวั่นคนนี้ก็คือ หนังเกย์อินดี้เรื่อง The Wedding Banquet
หลังจากนั้นอังลีก็ทำหนังดีๆ ออกมาหลายเรื่องซึ่งได้กล่องมากกว่าเงิน
แต่ถ้าถามว่าหนังเรื่องไหน คือ หนังที่สร้างจุดเปลี่ยนในสายอาชีพของ อังลี คำตอบที่พอเอาไปเมาท์กับเขาได้สนุกปาก ก็คือ Crouching Tiger, Hidden Dragon ที่อังลี ได้ทำให้หนังกำลังภายในมาบรรจบกับโปรดักชั่นแบบฮอลลีวู้ด
ภาพชายยืนบนกิ่งหลิวหรือวิชาตัวเบาที่เดินบนผิวน้ำกลายเป็นของแปลกตา ผู้ชมในโลกตะวันตก พร้อมกับวลีกระบี่ที่คมที่สุดอยู่ที่ใจ ที่ออกจากปากจอมยุทธ
ที่มีนามว่า โจวเหวินฟะ
ชีวิตในวัย 50 ปีของอังลี ในฐานะผู้กำกับดูเหมือนว่าเขายังฝังใจกับหนังเกย์ที่สร้างเมื่อสองทศวรรษก่อน เขาจึงกลับมาสานต่อเรื่องรักที่เป็นไปไม่ได้ของคาวบอยหนุ่มสองคน ในชื่อ โปรเจกต์
Brokeback Mountain หนังที่สวยงามไปด้วยทัศนียภาพของภูเขา ลำน้ำ และโศกนาฏกรรมความรักของแจ็คและแอนนิส
ทั้งหมดนั้นก็เพียงพอที่จะพาเขาไปถึงเวทีออสการ์ ในฐานะผู้กำกับยอดเยี่ยมคนล่าสุดของวงการที่เป็นชาวเอเชีย
word by buiberry
0 Comments:
Post a Comment
<< Home