THE KULTURES

Culture / Tech / Talks /

Thursday, October 26, 2006

ตด

พอดีอ่านที่คุณพี่ปุ้มเขียนเรื่องฝุ่นก็เลยนึกอะไรได้

มานั่งคิดดู ร่างกายคนเราก็ผลิตสิ่งสกปรกมาเยอะเหมือนกันนะครับ ทั้งเหงื่อ ขี้ไคล ฉี่ อึ ตด

พูดถึงตด ตอนเด็กๆเคยอ่านโดเรมอนตอนหนึ่งที่ไจแอนท์ตดจนลอยได้ อ่านจบรีบกินถั่วใหญ่เลย เผื่อจะลอยได้บ้าง ฮ่าๆๆ อายจัง

รายการ Mega Clever เคยตั้งคำถามว่าถ้าคนจีนทั้งประเทศกระโดดพร้อมกันจะเป็นยังไง สงสัยไหมครับว่าคนทั้งโลกตดพร้อมกันจะเป็นยังไง

สังเกตไหมครับว่าตดที่ดังมักไม่เหม็น แต่ตดที่เหม็นมักไม่ดัง ไม่ก็ดังแค่ปิ๊บๆ ฟีบๆ ตดที่ดังและเหม็นมักมาพร้อมสสารประเภทของแข็งตามมาด้วย

ใครเคยนอนเอาผ้าห่มคลุมโปงกับแฟนแล้วตดใส่ผ้าห่มบ้าง เป็นการแกล้งแฟนที่สนุกดีนะครับ บอกแฟนไปว่า "อยากให้เธอเป็นแซลมอนรมควันไง" ผมยังไม่เคยทำนะครับ แอบมีฟอร์มอยู่

เอ๊ะ วันนี้เป็นอะไรคุยแต่เรื่องอึเรื่องตด อย่าทำหน้ารังเกียจไป ใครๆก็ตดทั้งนั้นแหละ แถมบางคนยังมีพฤติกรรมที่น่าขยะแขยงจนเรื่องอึเรื่องตดดูสะอาดไปเลยก็มี

จะว่าไป ร่างกายเราก็ผลิตสิ่งปฏิกูลมาเยอะแล้ว เราน่าจะตระหนักนะครับว่า เราควรผลิตสิ่งที่ไม่ "สกปรก" ต่อโลกกันบ้าง

เรามาหาวิธีการตดให้หอมกันเถอะครับ

ท้อฟฟี่...ร้อนแรงทุกสัมผัส ร้อนรักทุกองศา ร้อนฉ่าทุกลีลา เริงร่าทุกนาที

5 Comments:

  • At 1:24 AM, Anonymous Anonymous said…

    ผมเคยคุยกับสาวสวยคนหนึ่ง เธอบอกว่ากว่าที่เราจะได้เจอคนที่เราสามารถตดใส่เขาได้โดยเขาไม่รังเกียจ (และมองเป็นเรื่องขำขัน หยอกล้อกัน)นั้นต้องใช้เวลาและจังหวะของชีวิตอยู่มากพอสมควร

    ผมจึงกลับมาคิดว่าการตดใส่กันนั้นก็คือการละลายพฤติกรรมทางตัวตนของเราเองออกไป แต่ก็เพื่อให้คนที่อยู่ข้างๆ ได้ใกล้ชิดตัวเรามากขึ้น (แต่ไม่ได้อยากสนิทกับกลิ่นตด)

    บางคนอาจไม่ชอบวิธีการละลายตัวตนด้วยการตด แต่สำหรับผมแล้ววิธีนี้ไม่ได้เสียหายอะไรเลย ใครรักใคร ใครสนิทกับใครก็ทำเถอะครับ ขอแต่ว่าให้ตดอย่ามีขอบเขต เพราะถ้าปล่อยลมจนเลยเถิดเกินไป อาจโดนคนสนิทหรือคนรักพูดจาไม่ถนอมน้ำใจได้ว่า

    "ตดอย่างนี้ มึงไปขี้เลยเหอะ"

     
  • At 4:32 PM, Blogger the aesthetics of loneliness said…

    คุณพี่คิดว่าการตดระหว่างวัน สะท้อนให้เห็นสุขนิสัยและกิจวัตรประจำวัน ที่ยังไม่เข้มงวดเพียงพอนะครับ
    ถึงแม้ว่าเราจะเคร่งครัดกับร่างกายในแง่ต่างๆ มามากมายแล้วก็ตาม เช่นการกินอาหาร การไปออกกำลังกายในฟิตเนส และการใช้ครีมประทินผิวต่างๆ นานา
    แต่ถ้าเรายังไม่ขับถ่ายให้เป็นเวลา หรือขับถ่ายกระปริกระปรอย และยังไม่หมดไส้หมดพุง จริงๆ อย่างเป็นกิจวัตรแล้วหล่ะก็ เราก็ยังไม่สามารถไปถึงความสุขที่แท้จริงของชีวิตได้
    หวังใจให้คุณน้องเข้มงวดให้มากขึ้นกับเรื่องนี้นะครับ

     
  • At 12:50 AM, Blogger gmplusclub said…

    เอ๊ะ คุณพี่อ๋องขา แอบแดกคนนั่งตรงข้ามป่ะครับ ฮ่าๆๆ

    ต่อไปท้อฟจะเคร่งครัดเรื่องตูดและเรื่องตดให้มากกว่าเดิม ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    ท้อฟฟี่...ตื่นมาด้วยความรู้สึกเหมือน"มาช่า"

     
  • At 9:22 PM, Anonymous Anonymous said…

    เห็นด้วยกับ jeeno นะ ว่า ตด เป็นการละลายพฤติกรรม (จริงๆ)

    อ้อ จะบอกว่าเราอ่านเจอในหนังสือเรื่อง "ทำไมผู้ชายถึงมีนม" ของสำนักพิมพ์คบไฟเขาบอกว่า ร่างกายคนเราตดโดยเฉลี่ยวันละ 15-20 ครั้ง (ถ้าจำไม่ผิด)

    ตดเป็นเรื่องธรรมชาติน่ะ เป็นเรื่องธรรมชาติ

    อย่ารังเกียจตดกันนักเลยนะเพื่อนๆ (และจะเห็นได้ว่าเรารังเกียจ ตด คนอื่น มากกว่า ตด ของเราเสมอ เฮ้อ)

     
  • At 1:24 PM, Blogger gmplusclub said…

    สมัยเด็กๆ พ่อพี่ชอบตดเอาไว้ในมือแล้วเอามาให้ลูกๆ ดมประจำ เป็นการกลั่นแกล้งที่ไร้ความปรานีที่สุด แม้แต่แม่พ่อก็ไม่เว้น หลังๆ พวกเราเริ่มเรียนรู้ที่จะเอาคืนบ้าง จริงๆ อย่างที่ทุกคนบอก ตดเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่มีสองที่ ที่เราไม่ควรจะตดเลย แม้อยู่กันสองต่อสองกับคนที่สนิทที่สุด
    นั่นคือลิฟท์ อยู่กันสองคน ตดกันสองคนก็โอเค
    แต่ถ้าติ๊งต่อง! มีคนเปิดเข้ามาในเวลาที่กลิ่นยังไม่จาง
    และผมเองเป็นคนนั้นที่กดลิฟทืเข้าไป
    คงไม่ต้องเล่าต่อแล้ว
    นายเอก

     

Post a Comment

<< Home