a space

…
a space เป็นคอนโดมิเนียมขนาดเล็ก ราคาเริ่มต้นที่ 1 ล้านบาท ครบครันด้วยเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งและของใช้ในชีวิตประจำวัน (Fully Furnished) อาทิ โซฟา ตู้เสื้อผ้า โต๊ะทำงาน โต๊ะทานอาหาร เก้าอี้ ตู้รองเท้า เตียงนอน ผ้าม่าน ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม หมอน แก้วน้ำ จานชาม ช้อนส้อม รองเท้าแตะ ร่ม กล่องใส่ทิชชู และแม้แต่ แปรงสีฟัน ฯลฯ
นี่เป็นข้อความโฆษณาในเว็บไซต์นี้ของ a space ที่จบลงด้วยประโยคที่บอกว่า
“แค่นี้ … ชีวิตคุณก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว”
ผมนั่งดูโฆษณาทีวีของ a space อยู่ชิ้นหนึ่งเป็นเรืิ่องของอาตี๋ในครอบครัวคนจีน แกบอกลาคนในครอบครัวอาแป๊ะ อาม่า อาอี๊ อาเจ๊ อาเฮีย อาโก อาหมวย และสมาชิกคนต่างๆ ที่ยืนจับกลุ่มอยู่ที่โต๊ะกินข้าว อาตี๋คนนี้เดินออกมาด้วยกระเป๋าขนาดจิ๋วที่เกี่ยวแค่นิ้วมือได้ เพื่อมาอยู่ a space
ตามคอนเซ็ปต์ของคอนโดเจ้านี้ที่บอกว่า
“มาแค่ตัวก็มาเริ่มชีวิตใหม่ได้ที่ a space”
เห็นอะไรไหมครับ… ? ว่าคนในสังคมเราตอนนี้กำลังแยกตัวออกมาจากครอบครัวเพื่อมาใช้ชีวิตอยู่คนเดียว ในห้องที่กว้างยาวไม่กี่ตารางเมตร แต่เต็มไปด้วยสิ่งที่สำเร็จรูป ผมไม่มีความรู้ทางสังคมวิทยามากพอที่จะอธิบายปรากฏการณ์แบบนี้ แต่พอเดาได้ว่าคนที่อยู่ใน a space ก็คงไม่ต่างจากคนที่อยู่ใน apartment อย่างผมที่อยู่ตอนนี้
คุณวุฒิชัย กฤษณะประกรกิจ เคยเขียนบทความชิ้นหนึ่งในคอลัมน์ “ดูหนังคนเดียว” ผมจำได้ว่าเขาเขียนถึงหนังเรื่อง Chungking Express (1994) ของหว่อง คาร์ ไว ที่ตัวละคร(663 - เหลียงเฉาเหว่ย) อาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นต์คนเดียว แล้วต้องทนเดียวดายในคืนวันของความเหงาที่กัดกิน
บทความชิ้นนั้นเขียนไว้น่าสนใจทำนองว่า (ถ้าพี่อ๋องมาอ่านแล้วผมเขียนผิดก็ขออภัยครับ)
Apartment = Apart + ment
Apart = การที่ของสองสิ่งแยกขาดออกจากกัน
Ment = ถ้าคำนี้มาจากคำว่า Moment ก็
หมายความว่าชั่วขณะแต่ผมคิดว่าใน
บริบทนี้มันน่าจะหมายถึงความรู้สึกมากกว่่า
ดูความหมายของคำว่า “Apartment” แล้วมันก็คงหมายถึงสถานที่ที่ทำให้เราแยกขาดจากสังคม เพื่อมามีชีวิตที่เป็นส่วนตัวอยู่คนเดียวที่นี่ จะมีความสุขหรือไหมผมก็ไม่รู้ เพราะคนเหล่านั้นจะมีความสุขจริงๆ หรือไม่ ผมก็ไม่รู้ ความสุขของแต่ละคนก็นิยามต่างกัน
น่าแปลกนะครับที่การตลาดสมัยนี้ มันสามารถขับดัน สร้างไลฟ์สไตล์การบริโภค ให้คนเราเดินทางออกมาจากสิ่งที่ที่เคยเต็มอย่างครอบครัว มาอยู่คนเดียว มาใช้ชีวิตแบบตัวใครตัวมันแบบไม่สนใจใยดีอะไรได้
ไม่เพียงแค่นั้นรถยนต์ที่ออกมาเปิดตัวช่วงนี้ก็ต่างเป็นรถซิตี้คาร์ (City Car ) ขนาดเล็ก กระทัดรัด นั่งได้จริงๆ เพียงไม่กี่ที่นั่ง ด้วยคุณสมบัติของความเป็นรถเมืองที่ต้องสะดวกคล่องตัว จอดง่าย แซงง่าย หรือเครื่องฟังเพลงอย่าง iPod ก็ออกแบบมาให้เราฟังได้คนเดียวจากหูฟังเฮดโฟนเสมือนอยู่ในโลกส่วนตัว
ผมคิดว่าคนจำนวนหนึ่งที่อยู่ใน a space ก็ต้องมีรถยนต์ลักษณะนี้ใช้ มีไอพอดฟัง นั่นจึงดูเหมือนว่า space ในสินค้าหรือบริการต่างๆ ถูกย่อส่วนให้เล็กลงเพื่อสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนที่เติบโตขึ้น เมื่อคนเราอยากมีบ้าน มีรถ มีอภิสิทธิ์ในการครอบครองอะไรสักอย่าง
ต่อไปเราก็จะเห็นภาพสมาชิกในครอบครัว เมื่อโตขึ้นแต่ละคนมีงานทำ มีเงินเดือนที่พอจะจ่ายให้ไฟล์สไตล์แบบนี้ได้ เชื่อว่าลูกแต่ละคนก็จะแยกกันไปอยู่คอนโดมีเนียมของตัวเอง มีรถซิตี้คาร์คันเล็กๆ ขับกันคนละคันอย่างเชิดหน้าชูตา แล้วกลับมาบ้าน (หลังใหม่) ของพ่อแม่ในวันเสาร์อาทิตย์ หรือนัดเจอกันตามห้างสรรพค้าตามร้านสุกี้เอ็มเค เพื่อคงภาพของความเป็นครอบครัวด้วยการกินข้าวด้วยกัน
เป็นไปได้ไหมว่าเมื่อทุกอย่าง(บ้าน-รถ) ถูกย่อส่วนให้เล็กลง ให้คนเป็นเจ้าของอะไรได้ง่ายขึ้น นั่นทำให้คนเมืองเป็นปัจเจกอย่างเต็มขั้น เมื่อเป็นอย่างนี้ช่องว่างทางสังคมของคนก็จะขยายตัวใหญ่ขึ้น ทำให้คนเราห่างกันไปเรื่อยๆ สภาวะแบบนี้จะส่งผลให้คนเมืองล่องลอยและเคว้งคว้างกันมากขึ้นได้ เช่น บางวันเราอาจอยู่ใน a space โดยไม่รู้ว่าจะทำอะไร หรือขับ aveo ออกไปข้างนอกโดยไร้จุดหมายที่แน่นอน
เพราะยัง “รู้สึกเหงา” และ “รู้สึกว่าขาด”
…
4 Comments:
At 2:22 AM,
Anonymous said…
อาจเป็นเพราะว่า สังคมเราทุกวันนี้
คนเราต้องอยู่ตัวคนเดียว ไม่มีครอบครัว
การแต่งงานน้อยลง การอยู่เป็นครอบครัวก็น้อยลงไปด้วย
การที่จะไปซื้อบ้านอยู่ ก็คงเป็นเรื่องลำบาก
ไม่สะดวกสบาย มันเป็นเรื่องธรรมดาของคนเมืองไปแล้ว
At 1:09 PM,
Anonymous said…
เมื่อวานเราไปทองหล่อ มีป้ายคอนโดใหม่ของ Noble House ชื่อ 'Noble Solo'โปรยบอกว่านี่คือ Soloist คอนโดมิเนี่ยม
ก็พื้นดินมันน้อยลงๆๆๆ ทุกทีก็ต้องอยู่กันแบบชั้นบนๆๆ บนตึกสูงขึ้นไปเรื่อยๆ แบบนี้
ความเห็นส่วนตัวเรานะ ข้อหนึ่งคือเป็นธรรมดาที่พวกเราจะเหงา เพราะเราดันเลือกที่จะแยกตัวออกมาเอง ไม่ยอมอยู่รวมกับใคร การไม่อยากมีลูกก็เหมือนกัน นั่นเพราะพวกเราไม่อยากรับผิดชอบหรือมีภาระ
At 9:26 PM,
gmplusclub said…
ทางทฤษฎีสังคมศาสตร์
สังคมกับมนุษย์เป็นสิ่งที่ผันตามกันเสมอ
สังคมเกิดขึ้น เพื่อกำหนดชีวิตของคนให้อยู่รอด
จริงๆ ถ้าจะเล่ามันยาวมากกกกกกกกกกกกกกกกก
เอาเป็นว่า ตอนนี้ครอบครัวไม่ได้ทำหน้าที่แบบในอดีตอีกแล้ว เราไม่ต้องผลิตทุกอย่างเอง เราไม่ต้องมีคนในบ้านมากๆ อีกแล้ว ฉะนั้น การตั้งคำถามกับรูปแบบของการเป็นสัตว์สังคมแบบใหม่นั้น น่าสนใจ
และน่ารุ้อย่างยิ่งว่า มนุษย์จะจัดการกับตัเองในฐานะสัตว์สันโดดและครอบครัวผู้ให้กำเนิดอย่างไร
ถ้าจะพุดแบบนิยายวิทยาสาสตร์มากๆ
ความเกี่ยวดองที่น้อยลงของคนสองเจนเนอเรชั่น
อาจทำให้ท้ายที่สุดเราก็จะกลายเป็นแบบสัตว์เดรัจแน ที่พ่อแม่จะถูกลดบทบาทลงจนกลายเป็นแค่คนรู้จัก มากกว่าจะมีความผูกพันทางจิตใจ
แหม น่าเขียนเป็นนิยายสักเรื่องเลยนะเนี่ย
At 3:41 PM,
Unknown said…
โอกาสทองสำหรับผู้ต้องการเป็นนักบินทุนส่วนตัว
ธนาคารธนชาตมอบทุนนักบิน 70 ทุน มูลค่า 185 ล้านบาทสำหรับผู้ที่ต้องการเป็นนักบิน สนใจขอรับทุนและรับฟังรายละเอียดใน วันศุกร์ที่ 20 เมษายน 2550
เวลา 8.30 น.–12.00 น. ณ.อาคารฐานเศรษฐกิจ ห้องสังข์ทอง ชั้น1
พิเศษ !!! สำรองที่นั่งได้ที่
webcyber50@gmail.com หรือ mga01@mga.co.th
( ไม่เสียค่าใช้จ่าย ) จำกัดเพียง 20 ที่นั่งเท่านั้น
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณวันวิสาข์ , คุณณัฐพล
โทร. 0-2907-9669 , 0-2907-9588 http://www.mga.co.th/civil
Link รูป : http://www.mga.co.th/new_home/120250/P1070982+.gif
Post a Comment
<< Home