ไฟไหม้บ้าน
เมื่อมีคนพูดจาหรือทำอะไรให้เราขุ่นเคือง เราย่อมเป็นทุกข์ เราจึงมักจะพูดหรือตอบโต้เพื่อให้คนผู้นั้นเป็นทุกข์บ้าง ด้วยหวังว่าตัวเองจะทุกข์น้อยลง
ผลก็คือ มีแต่จะทำให้ทั้งสองฝ่ายทุกข์หนักยิ่งขึ้น
อย่าพูดหรือทำอะไร สิ่งที่เธอพูดหรือทำด้วยอารมณ์เดือดดาล อาจทำให้สัมพันธภาพของพวกเธอแย่ลง ทว่าพวกเราส่วนใหญ่ไม่ทำเช่นนั้น เราไม่ปรารถนาที่จะกลับมาหาตัวเอง หากต้องการไล่ตามอีกฝ่ายเพื่อทำร้ายเขา
ถ้าไฟกำลังไหม้บ้านของเธอ สิ่งที่จะต้องทำอย่างเร่งด่วนที่สุด ก็คือพยายามดับไฟ ไม่ใช่วิ่งตามคนที่เธอคิดว่าเป็นผู้วางเพลิง
ติช นัท ฮันห์
ผลก็คือ มีแต่จะทำให้ทั้งสองฝ่ายทุกข์หนักยิ่งขึ้น
อย่าพูดหรือทำอะไร สิ่งที่เธอพูดหรือทำด้วยอารมณ์เดือดดาล อาจทำให้สัมพันธภาพของพวกเธอแย่ลง ทว่าพวกเราส่วนใหญ่ไม่ทำเช่นนั้น เราไม่ปรารถนาที่จะกลับมาหาตัวเอง หากต้องการไล่ตามอีกฝ่ายเพื่อทำร้ายเขา
ถ้าไฟกำลังไหม้บ้านของเธอ สิ่งที่จะต้องทำอย่างเร่งด่วนที่สุด ก็คือพยายามดับไฟ ไม่ใช่วิ่งตามคนที่เธอคิดว่าเป็นผู้วางเพลิง
ติช นัท ฮันห์
4 Comments:
At 9:30 AM,
Anonymous said…
เรื่องการพูดตอนโมโหเนี่ยนะ
มีเรื่องเล่าดี-ดีอยู่เรื่องนึง
มีเด็กอยู่คนนึงขี้โมโหมาก
แล้วเวลาโมโหก็ชอบพูดจาทำร้ายจิตใจคนอื่น
ก็รู้สึกว่ามันไม่ดี แต่ไม่รู้จะทำไง จึงไปปรึกษาพ่อ
พ่อก็แนะนำว่า
เอางี้นะลูก เวลาโมโหก็เอาตะปูไปตอกกำแพง
โมโหเมื่อไรก็ตอกเมื่อนั้น
ทีละตัว ทีละตัว
เวลาผ่านไป...ตะปูเต็มกำแพง
ลูกก็มาถามพ่อว่า แล้วยังไงต่อ ไม่เห็นมีไรเลย
พ่อก็บอกว่า
คราวนี้ โมโหอีกเมื่อไร ให้ถอนตะปูออกมา
ทีละตัว ทีละตัว
เวลาก็ผ่านไปอีก จนเด็กชายถอนตะปูออกหมด
ก็มาถามพ่ออีก
พ่อก็พามาดูกำแพงที่มีรอยตะปูมากมายนั้น
แล้วบอกว่า
”ดูนะลูก...เวลาเราโมโห พูดอะไรออกไป
ก็เหมือนเราตอกตะปูลงไปที่กำแพง
แล้วเมื่อเราหายโมโห
ก็เหมือนเราถอนตะปูออก
ความโมโหของเราหาย ตะปูถูกถอนออก
แต่ความรู้สึกของคนฟังนั้นเหมือนกับรอยที่กำแพง
มันจะอยู่อย่างนั้นตลอดไป”
At 6:33 PM,
Anonymous said…
พระเจ้าจอร์จ อ่านความเห็นคุณ emily ตอนแรกนึกว่าจะสนับสนุนความรุนแรง (นึกว่าโกรธแล้วให้ระบาย ก็เห็นให้ตอกตะปู) แต่จริงๆ ก็อยากให้เข้าใจเรื่องรอยตะปูใช่มั้ย
ตัวอย่างเห็นภาพชัดดีนะ
นักจิตวิทยาบางสำนักบอกว่าเวลาคุณโมโหให้ระบาย แล้วมันจะดีขึ้น แต่เราไม่เห็นด้วยนะ การที่เราตีข้างฝาหรือปาของเสร็จ ที่เรารู้สึกดีขึ้นเพราะว่าเราเหนื่อย (เพราะใช้แรง) ต่างหาก นี่มันกลับยิ่งบ่มเพาะความรุนแรงเสียอีกด้วย
At 12:20 PM,
Anonymous said…
ไม่ค่อยเกี่ยวกับเรื่องนี้นะ
แต่อ่านแล้วเรานึกถึงหนังเรื่อง "โอเคเบตง" ที่พระเอกที่เป็นพระมีนิมิตรว่าไปไหม้บ้าน แล้วถัดจากฉากนี้
ก็มีบทพูดทำนอง "ถ้าเราไม่มี ก็ไม่มีใครเอาของเราไปได้"
:)
At 12:22 AM,
the aesthetics of loneliness said…
ต่อจาก buiberry ...
หมายความว่าถ้าเราอีโก้น้อยๆ ใครมาด่าเรา เราก็ไม่สะเทือนใช่ปะ
ใครอยากจะเผาบ้านเรา ถ้าเราไม่มีบ้าน เขาก็ไม่สามารถเผาอะไรได้?
Post a Comment
<< Home